การเลี้ยงแมวเป็นความสุขของใครหลาย ๆ คน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า นิสัยและพฤติกรรมแมวสามารถแสดงออกถึงปัญหาสุขภาพของพวกเขาได้ เพราะแมวไม่สามารถบอกเราด้วยคำพูด การสังเกตพฤติกรรมจึงเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันโรคร้าย ก่อนที่อาการจะรุนแรง

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมแมวที่บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพ พร้อมวิธีสังเกตและดูแลเบื้องต้น เพื่อให้คุณมั่นใจว่าน้องแมวของคุณจะปลอดภัยและสุขภาพดีอยู่เสมอ

นิสัยแมวปกติที่เจ้าของควรรู้

ก่อนจะสังเกตพฤติกรรมผิดปกติ เรามาทำความเข้าใจนิสัยของแมวทั่วไปกันก่อน

• แมวชอบเล่นและสำรวจสิ่งรอบตัว
• แมวชอบใช้เวลาไปกับการพักผ่อนและนอนอย่างสม่ำเสมอ
• แมวที่สุขภาพดี จะกินอาหารและดื่มน้ำตามปกติ
• ใช้กระบะทรายและเลียตัวเองเพื่อทำความสะอาด
• แมวมักมีปฏิสัมพันธ์กับเจ้าของในระดับที่พอเหมาะ เช่น ชวนเล่น หรือ ขยับตัวมานอนใกล้

ถ้าพฤติกรรมเหล่านี้เปลี่ยนไป อาจเป็นสัญญาณว่ามีบางอย่างผิดปกติ

พฤติกรรมแมวที่แสดงออกถึงปัญหาสุขภาพ

เมื่อแมวมีปัญหาสุขภาพ พวกเขามักแสดงออกผ่านพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เจ้าของสามารถสังเกตได้ เช่น

• ซึมและไม่ขยับตัว : แมวที่ซึม ไม่สนใจเล่นหรือกินอาหาร อาจมีปัญหาภายในร่างกาย
• กินอาหารหรือน้ำลดลง : การปฏิเสธอาหารหรือน้ำเป็นสัญญาณว่าร่างกายไม่สบาย
• อาเจียนหรือท้องเสีย : เป็นสัญญาณว่าระบบทางเดินอาหารหรือการย่อยอาหารผิดปกติ
• แสดงความก้าวร้าวมากขึ้น : ความเจ็บป่วยทำให้แมวเครียดและตอบสนองรุนแรง
• เดินหรือกระโดดผิดปกติ : บ่งบอกถึงความเจ็บปวดหรือปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและกระดูก

การสังเกตพฤติกรรมเหล่านี้อย่างละเอียด จะช่วยให้คุณรับมือกับปัญหาก่อนที่อาการของน้องแมวจะรุนแรงยิ่งขึ้น

พฤติกรรมที่บ่งบอกปัญหาระบบประสาท

นอกจากพฤติกรรมที่เป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพแล้ว หากสังเกตว่านิสัยของแมวเริ่มแปลกไปมากกว่าที่เคย อาจบ่งบอกได้ถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทหรือโรคทางกายอื่น ๆ ที่ซ่อนอยู่ เพราะระบบประสาทมีบทบาทสำคัญต่อการเคลื่อนไหว การทรงตัว และการตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ ซึ่งพฤติกรรมที่ควรเฝ้าระวัง มีอยู่ด้วยกันดังนี้ 

• การทรงตัวไม่ดี : แมวเดินเอียง เดินเซ หรือหกล้มบ่อย เป็นสัญญาณว่าระบบประสาทอาจผิดปกติ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับสมดุลของร่างกาย
• การเคลื่อนไหวช้า : การตอบสนองช้า ขาสั่น หรือกระโดดไม่มั่นคง เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่ากล้ามเนื้อหรือระบบประสาทอาจทำงานไม่ปกติ
• กะพริบตาผิดปกติ : ตอบสนองต่อสิ่งเร้าน้อยลง ตาลอย หรือไม่สนใจสิ่งรอบตัว เป็นสัญญาณของปัญหาการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง
• เปลี่ยนเสียงร้อง : แมวร้องบ่อยขึ้น ร้องเสียงสูงต่ำผิดปกติ หรือส่งเสียงแปลก ๆ เป็นสัญญาณว่าระบบประสาทหรือกล้ามเนื้อคออาจได้รับผลกระทบ

หากเจ้าของสังเกตอาการเหล่านี้ ควรพาแมวไปเข้ารับการตรวจโดยสัตวแพทย์ เพราะการวินิจฉัยตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้รักษาได้ตรงจุดและป้องกันปัญหาที่รุนแรง

การดูแลแมวเบื้องต้น

นอกจากการสังเกตพฤติกรรมแมวและพาไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลสัตว์แล้ว เจ้าของสามารถดูแลแมวที่มีอาการผิดปกติได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ซึ่งการดูแลเบื้องต้นนี้ไม่เพียงช่วยบรรเทาอาการของแมว แต่ยังช่วยลดความเครียดและทำให้น้องแมวรู้สึกปลอดภัย

จัดสภาพแวดล้อมปลอดภัย

• ลดสิ่งกีดขวาง เช่น ของตกแต่งที่คม หรือเฟอร์นิเจอร์ที่แมวอาจปีนขึ้นไป และเสี่ยงต่อการตกลงมา
• จัดมุมสงบในบ้าน ให้แมวสามารถหลบซ่อนตัวเพื่อคลายเครียด

ให้อาหารย่อยง่ายและน้ำสะอาด

• เลือกอาหารที่ย่อยง่าย และมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน
• จัดน้ำสะอาดไว้ตลอดเวลา และควรเปลี่ยนน้ำอย่างสม่ำเสมอ

ลดความเครียดด้วยการพาเล่นอย่างเหมาะสม

• ใช้ของเล่นกระตุ้นสมอง เช่น ของเล่นจับเหยื่อ หรือลูกบอล
• เล่นกับแมวเป็นเวลาสั้น ๆ หลายครั้งต่อวัน แต่ไม่ควรบังคับหากแมวเริ่มแสดงอาการเครียด

สัญญาณอันตรายที่ต้องพาไปหาสัตวแพทย์ทันที

• ทรงตัวไม่ได้ หรือหกล้มบ่อย
• ซึมมากจนไม่กินอาหารหรือดื่มน้ำ
• ชัก สะดุ้ง หรือมีการตอบสนองช้า
• เหงือกหรือผิวหนังเปลี่ยนสี
• อาเจียนหรือท้องเสียต่อเนื่อง

การสังเกตนิสัยและพฤติกรรมแมว เป็นวิธีสำคัญในการป้องกันปัญหาสุขภาพและโรคระบบประสาท ซึ่งแมวที่มีพฤติกรรมผิดปกติ ไม่ว่าจะซึม กินอาหารน้อย หรือเดินไม่มั่นคง ควรได้รับการตรวจจากสัตวแพทย์ ปรึกษาได้ที่โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อสาขาใกล้บ้านคุณ เราพร้อมให้บริการตรวจรักษาและดูแลสัตว์เลี้ยงตลอด 24 ชม. ครอบคลุมทั้งการตรวจระบบประสาทแมว และตรวจระบบประสาทสุนัข 

ติดต่อสอบถามได้ที่ 02-079-9999 หรือ Line Official @jaothonglor

ข้อมูลอ้างอิง:

1. 10 Subtle Signs That Your Cat May Have an Illness. สืบค้นวันที่ 15 ตุลาคม 2568 จาก https://www.vet.cornell.edu/departments-centers-and-institutes/cornell-feline-health-center/health-information/feline-health-topics/your-cat-slowing-down