หลายคนอาจสงสัยว่า "น้องหมาน้องแมว ต้องหาหมอฟันเหมือนกับคนเราด้วยเหรอ?" "ถ้าไม่ไปหาจะส่งผลเสียกับสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราบ้างไหมนะ?" หรือ "น้องจะเป็นโรคอะไรร้ายแรงรึเปล่า?"
เพราะอะไรต้องพาน้องไปหาหมอฟัน?
ในแต่ละวัน อาหารที่สัตว์เลี้ยงของเรากินเข้าไปมีสารอาหารมากมาย แต่ที่สำคัญคือ ฟันของสัตว์เลี้ยงไม่เหมือนกับของคนเราที่สามารถแปรงฟันได้เอง ผลที่ตามมาคือ:
ปัญหาสุขภาพช่องปากร้ายแรงมากกว่าที่เราคิด! นอกจากสัตว์เลี้ยงแสนรักจะมีกลิ่นปากที่แรงแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ เช่น:
บางทีที่เราคิดว่าการแปรงฟันสำหรับสัตว์เลี้ยงนั้นเพียงพอแล้ว แต่จริงๆ ยังไม่พอ เพราะมีบริเวณที่แปรงฟันเข้าไม่ถึง และคราบหินปูนที่แข็งตัวแล้วไม่สามารถกำจัดได้ด้วยการแปรงฟันธรรมดา เพราะฉะนั้นอย่ามองข้ามการมาพบสัตวแพทย์
หากคุณสังเกตเห็นสัญญาณเหล่านี้ ควรพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด
การดูแลสุขภาพช่องปากของสัตว์เลี้ยงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แม้ว่าการแปรงฟันที่บ้านจะเป็นพื้นฐานที่ดี แต่การพบสัตวแพทย์เป็นประจำก็มีความจำเป็นเช่นกัน การทำความสะอาดฟันโดยสัตวแพทย์จะช่วยกำจัดคราบหินปูนที่แข็งตัวและตรวจพบปัญหาที่อาจซ่อนอยู่ได้
นอกจากจะช่วยป้องกันโรคร้ายแรงแล้ว การดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอยังช่วยให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดในช่องปาก และมีสุขภาพโดยรวมที่แข็งแรงด้วย
1. สุนัขมีฟัน น้ำนม 28 ซี่ และฟันแท้ 42 ซี่ ต่างจากคนที่มีฟันน้ำนม 20 ซี่และฟันแท้ 32 ซี่.
2. สุนัขมีฟันเขี้ยวที่ยาวเรียวแข็งแรง เพื่อใช้ฉีกเนื้อและอาหาร ตามธรรมชาติ ในขณะที่คน มีเขี้ยวที่ทู่และป้อมกว่า
3. ฟันกรามของสุนัข มีขนาดใหญ่มากเทียบกับซี่อื่นๆ เพื่อใช้ในการขบแทะของแข็ง เช่นกระดูก ในขณะที่ฟันกรามของคนมีขนาดไม่ต่างกันมาก
4. ความเป็นกรดด่างในช่องปากของสุนัข มีความเป็นกรดน้อยกว่าของคน ดังนั้นเราจึงไม่สามารถใช้ยาสีฟันของคนในการทำความสะอาดช่องปากสุนัขได้ รวมไปถึงสุนัขส่วนใหญ่แพ้ fluoride ทำให้มีผลกับระบบทางเดินอาหารได้ กรดด่างในช่องปากของสุนัข น้อยกว่า ของคน
5. ฟันตัดด้านหน้าของสุนัขมีขนาดค่อนข้างเล็กเทียบกับฟันเขี้ยว ในขณะที่ฟันตัดของคนมีขนาดใกล้เคียงกัน
ขูดหินปูน/ขัดฟัน
ถอนฟัน
อุดฟัน
รักษารากฟัน
ผ่าตัดเนื้องอกในช่องปาก
ศัลยกรรมกระดูกขากรรไกร
ผ่าตัดท่อน้ำลาย
ผ่าตัดแก้ไขเพดานโหว่