การเลือกพันธุ์สุนัขให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและการดูแลเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอากาศร้อนชื้นตลอดทั้งปี การเลือกสายพันธุ์ที่สามารถปรับตัวได้ดีจะทำให้สุนัขของคุณมีความสุขและสุขภาพดีไปอีกยาวนาน วันนี้เราจึงจะมาแนะนำสายพันธุ์สุนัขน่าเลี้ยงที่เหมาะกับอากาศบ้านเรา แถมดูแลง่ายและรักเจ้านาย
เพราะสุนัขจะอยู่กับเราไปอีกเป็นสิบปี การเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่เจ้าของควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน ด้วยเหตุผลเหล่านี้
อากาศในประเทศไทยมีความร้อนชื้นตลอดทั้งปี การเลือกพันธุ์สุนัขที่สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงและมีความสามารถในการปรับตัวกับความร้อนจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยพันธุ์สุนัขน่าเลี้ยงที่เหมาะสมจะช่วยให้สุนัขมีสุขภาพที่ดีและไม่เกิดปัญหาจากอากาศที่ร้อนจัด
สุนัขบางสายพันธุ์ที่ไม่ทนทานต่อความร้อนอาจมีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคลมแดด หรือปัญหาผิวหนังจากการที่ต้องเจอกับสภาพอากาศร้อน ๆ ทำให้ต้องดูแลเป็นพิเศษ ดังนั้นการเลือกสายพันธุ์ที่สามารถปรับตัวได้ดีจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเลี้ยงในประเทศไทย
สายพันธุ์สุนัขในประเทศไทยค่อนข้างมีหลากหลาย ทั้งพันธุ์ท้องถิ่นและพันธุ์ต่างประเทศ ซึ่งการพิจารณาเลือกหมาพันธุ์น่ารัก ๆ ที่สามารถทนต่อสภาพอากาศของประเทศไทยได้ จะช่วยให้การเลี้ยงดูสะดวกขึ้น ทั้งยังลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย และช่วยลดค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลในอนาคตอีกด้วย
หลังจากที่ได้ทราบเหตุผลเกี่ยวกับการเลือกพันธุ์สุนัขที่เหมาะกับสภาพอากาศในประเทศไทยแล้ว แต่ถ้ายังไม่แน่ใจว่าควรเลือกเลี้ยงสุนัขพันธุ์อะไรดี นี่คือ 10 สายพันธุ์แนะนำที่ปรับตัวกับสภาพอากาศร้อนชื้นได้ดี ทั้งยังมีนิสัยน่ารัก และดูแลได้ง่าย
พันธุ์สุนัข | ลักษณะ | ความเหมาะสมในการเลี้ยงในไทย |
1. หมาพันธุ์ไทย | ขนสั้น, แข็งแรง, ทนทานต่ออากาศร้อน | เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ทนต่อความร้อน และง่ายในการดูแล |
2. ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian) | ขนหนานุ่ม แต่ไม่หนามาก | สามารถอยู่ในสภาพอากาศร้อนได้ดี หากได้รับการดูแลรักษาขนอย่างเหมาะสม |
3. ชิวาวา (Chihuahua) | ขนาดเล็ก, ขนสั้น | เหมาะกับสภาพอากาศร้อน แต่อย่าปล่อยให้อยู่ในที่ร้อนนานเกินไป เพราะอาจเสี่ยงภาวะฮีทสโตรก |
4. บีเกิ้ล (Beagle) | ขนาดกลาง, ขนสั้น | ถึงแม้จะทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ แต่อาจต้องดูแลเพื่อหลีกเลี่ยงกับอากาศที่ร้อนจัด เพราะสายพันธุ์นี้ร่างกายอาจระบายความร้อนออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร |
5. เฟรนซ์บูลด็อก (French Bulldog) | ขนาดเล็ก, ขนสั้น, หน้าสั้น | ทนร้อนได้บ้างแต่ต้องระวัง เพราะระบบหายใจแคบ ระบายความร้อนได้ไม่ดี เสี่ยงหายใจลำบากและเป็นลมแดด ที่อาจอันตรายถึงชีวิต |
6. ชิสุ (Shih Tzu) | ขนยาว ควรหมั่นตัดแต่งขนเป็นประจำ | แม้จะมีขนยาวแต่ลักษณะขน บาง เป็นขนชั้นเดียว ทนทานต่ออากาศร้อนหากและควรได้รับการดูแลขนอย่างดี |
7. พุดเดิ้ล ทอย (Poodle Toy) | ขนาดเล็ก, ขนหยิก | ทนทานกับอากาศร้อนและขนไม่หนาจนเกินไป สามารถเลี้ยงในอากาศร้อนได้ แต่ต้องระวังอย่าให้อยู่ที่อากาศร้อนนานเกินไป เพราะอาจเสียน้ำและช็อกได้ง่าย |
8. คอร์กี้ (Corgi) | ขนาดกลาง, ขนหนา | มีขนหนาสองชั้น แม้จะปรับตัวกับอากาศได้ดี แต่ก็เสี่ยงที่จะสะสมความร้อนมากเกินไป จนนำไปสู่ภาวะฮีทสโตรกได้ |
9. ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky) | ขนหนา, ทนต่ออากาศหนาวแต่ไม่เหมาะกับร้อนมาก | ต้องดูแลพิเศษหากนำมาเลี้ยง และควรหลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรง เพราะเสี่ยงสะสมความร้อนจนเป็นฮัทสโตรกได้ |
10. ชิบะอินุ (Shiba Inu) | ขนหนา, ขนาดกลาง | แม้จะมีขนหนา แต่สามารถทนต่ออากาศร้อนได้ดี ถ้าดูแลอย่างถูกต้อง |
หลังจากรู้แล้วว่าควรจะเลี้ยงหมาพันธุ์อะไรดี และเมื่อรับน้อง ๆ มาแล้ว ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับสุขภาพของพวกเขา ด้วยการพาไปฉีดวัคซีนและตรวจสุขภาพที่ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ คลินิกรักษาสัตว์สาขาใกล้บ้านคุณ เราพร้อมให้บริการรักษาหมาและดูแลสัตว์เลี้ยงทุกชนิดตลอด 24 ชม. ติดต่อสอบถามได้ที่ 02-079-9999 หรือ Line Official @jaothonglor
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยง สนใจบริการ อาบน้ำตัดขน ว่ายน้ำ สั่งซื้อสินค้าสัตว์เลี้ยงออนไลน์ สามารถสอบถามได้ที่
#ThonglorPetHospital #TheBestAlways
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor