อีกหนึ่งปัญหาของเหล่าทาสแมว ที่ต้องพบเจออยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นน้องแมวพันธุ์ขนสั้น หรือขนยาว นั่นก็คืออาการ แมวขนร่วง ซึ่งหลายคนที่เลี้ยงแมวใหม่ๆ หรือไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อน อาจจะยังไม่ทราบว่า โดยปกติแล้วน้องแมวจะมีการผลัดขนอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงผลัดขน ที่จะส่งผลให้ช่วงนั้นน้องแมวดูขนร่วงเยอะเป็นพิเศษ ดังนั้นข้อสังเกตนี้จึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งคำถามที่ว่า แล้วอาการขนร่วงแบบไหนที่น่าเป็นห่วง ?
วันนี้ Thonglor Pet Hospital ได้นำคำแนะนำดีๆ จากสัตวแพทย์ มาแนะนำเหล่าทาสแมวทั้งหลาย เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมการผลัดขน และอาการของโรคต่างๆ ที่ส่งผลต่อผิวหนัง และสุขภาพขนน้องแมวกัน หากพร้อมกันแล้ว มาติดตามกันต่อในบทความได้เลย !
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจพฤติกรรมการผลัดขนของน้องแมวกัน เพราะอาการขนร่วงนั้นสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยร่วมกัน ซึ่งผู้เป็นเจ้าของจำเป็นต้องหมั่นสังเกตอาการ ตลอดไปจนถึงพาน้องแมวไปตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำ เพื่อทำการวิเคราะห์อาการเบื้องต้น โดยปัจจัย และสาเหตุหลัก ที่ส่งผลต่ออาการ แมวขนร่วง จะมีดังต่อไปนี้
การผลัดขนตามธรรมชาติ – โดยปกติแล้วน้องแมวจะทำการผลัดขน 1-2 ครั้งในทุกๆ ปี โดยเฉพาะแมวที่เลี้ยงในระบบปิดอาจมีการผลัดขนในฤดูอื่นๆ ที่ไม่ใช่ฤดูร้อนได้
ขาดสารอาหาร – ในที่นี้หมายถึงการได้รับสารอาหารที่จำเป็นไม่เพียงพอ เช่น การขาดโปรตีน ซึ่งนอกจากขนจะไม่สวยเงางามแล้ว ยังทำให้สุขภาพโดยรวมแย่ลงอีกด้วย
ฮอร์โมนผิดปกติ – แมวที่กำลังตั้งครรภ์ และมีอาการเครียดมากๆ จากความกังวล หรือความเจ็บป่วย อาจทำให้ฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติไป ส่งผลให้ขนร่วงเป็นหย่อมๆ ได้
โรคทางผิวหนัง – เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เกิดขึ้นได้ แม้จะเลี้ยงแมวในระบบปิดที่มีการควบคุมสภาพแวดล้อมเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น การติดปรสิตชนิดต่างๆ เช่น เห็บ ไร และหมัด และอีกหนึ่งอาการที่อาจส่งผลต่อขนได้คือ การระคายเคืองบริเวณผิวหนัง ซึ่งจะทำให้น้องแมวเลียผิวบริเวณนั้นบ่อยๆ ส่งผลให้ขนในบริเวณนั้นร่วงผิดปกติไปนั่นเอง
การแพ้ผลิตภัณฑ์ – ผลิตภัณฑ์จำพวกสารทำความสะอาด เช่น แชมพู น้ำหอม หรือน้ำมันชโลมขน สำหรับน้องแมวบางตัวอาจมีอาการแพ้ และระคายเคืองบริเวณผิวหนังได้
ดังนั้นเมื่อเราได้รวบรวม การแก้แมวขนร่วง ให้ทุกท่านได้ตรวจสอบอาการคร่าวๆ แล้ว ท่านเจ้าของอาจจะสามารถคาดเดาได้เบื้องต้น ว่าน้องแมวเรามีขนร่วงมาจากสาเหตุอะไร แต่อย่างไรก็ตามก็ควรนำน้องแมวไปพบสัตวแพทย์ เพื่อวินิจฉัยอาการอย่างละเอียด เนื่องจากอาการดังกล่าว อาจเกิดจากโรคที่ไม่คาดคิดมาก่อนก็เป็นไปได้
สำหรับทาสแมวที่ไม่ต้องการให้เจ้านายของคุณ มีอาการขนร่วงอย่างผิดปกติบ่อยๆ นั้น จำเป็นต้องย้อนกลับมาที่วิธีการดูแลตั้งแต่อาหารการกิน ตลอดไปจนถึงพฤติกรรมการเลี้ยงดู ซึ่งเราได้นำเคล็ดลับที่จะช่วยให้ขนน้องแมวแข็งแรง เงางามยิ่งกว่าเดิมมาฝากทุกท่านกัน
ปรับเปลี่ยนอาหาร – สำหรับแมวที่ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนสมบูรณ์นั้น สิ่งแรกที่จะแสดงออกได้เลยคือ อารมณ์ และสภาพขน โดยอาหารที่ดีนั้นจะต้องอุดมไปด้วยโปรตีน รวมไปถึงวิตามินต่างๆ และโอเมกา 3 อย่างไรก็ตามก็ควรควบคุมปริมาณการทานให้เหมาะสม เพื่อป้องกันโรคอ้วน และไขมันสะสมสูง โดยเฉพาะน้องแมวที่มีนิสัยไม่ชอบขยับร่างกาย
แปรงขนเป็นประจำ – หลายคนเลือกที่จะแปรงขน 3 วันครั้ง หรือแม้แต่อาทิตย์ละครั้ง แต่ความจริงแล้วน้องแมวมีการผลัดขนออกทุกวัน จึงควรแปรงขนให้น้องแมวอย่างน้อยวันละ 15 นาที โดยค่อยๆ แปรงไล่จากบริเวณส่วนหัวลงไป และไม่แปรงสวนทิศทางขน
สังเกตอาการ – หากพบว่าแมวมีอาการเลียบริเวณใดบริเวณหนึ่งอย่างผิดปกติ หรือพบการขนร่วงเป็นจ้ำๆ ให้พาเข้าไปพบสัตวแพทย์โดยทันที เพื่อตรวจสอบอาการเบื้องต้น และรับการรักษาอย่างถูกต้อง
ควรอาบน้ำบ้าง – โดยปกติแล้วแมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาด จึงไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อยๆ โดยเฉพาะแมวบ้านที่เลี้ยงในระบบปิด อาจอาบน้ำเพียงเดือนละ 1-2 ครั้ง และใช้แชมพูที่มีความอ่อนโยนต่อผิว เพื่อป้องกันการแพ้ และการระคายเคืองบริเวณผิวหนัง
ใช้เครื่องฟอกอากาศ – เพื่อสภาพแวดล้อมที่ดี และป้องกันเชื้อโรค เชื้อรา และความชื้น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อผิวหนังน้องแมว การใช้เครื่องฟอกอากาศก็ช่วยให้ทั้งน้องแมว และเจ้าของมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม อาการโรคทางผิวหนังของน้องแมวนั้น สามารถกลายเป็นโรคเรื้อรังได้หากไม่ทำการแก้ไข และปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ดูแลรักษา โดยสำหรับโรคที่เกี่ยวกับผิวหนัง และขนที่พบได้บ่อยในแมว โดยเฉพาะแมวที่อาศัยอยู่ร่วมกันหลายตัวคือ โรคเชื้อราแมว ซึ่งตัวการที่ก่อให้เกิดโรค ก็คือสปอร์ของเชื้อรา ที่ชื่อว่าไมโครสปอรัม เคนิส (Microsporum Canis) สามารถติดต่อได้จากแมวสู่แมว หรือติดต่อได้จากสภาพแวดล้อม
อาการที่สังเกตได้จะแตกต่างกันออกไปสำหรับแมวแต่ละตัว โดย แมวขนร่วง จะเป็นอาการหลักที่พบได้บ่อยๆ ร่วมกับอาการปื้นแดง พร้อมผิวหนังที่แห้งเป็นขุย ซึ่งขนในบริเวณนั้นจะหลุดร่วงออก หรือขาดง่ายกว่าปกติ
อย่างไรก็ตามโรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ พร้อมทำลายสปอร์ของเชื้อราที่ติดอยู่บนตัวแมวออกทั้งหมด และที่ร้ายแรงกว่านั้นคือ เชื้อราตัวนี้สามารถติดต่อสู่คนได้ ซึ่งอาการจะคล้ายๆ น้องแมวคือ ผิวหนังเป็นวงแดง แห้งลอก และเป็นขุย ดังนั้นนอกจากการรักษาน้องแมวให้หายขาดแล้ว ควรดูแลสภาพแวดล้อมที่น้องแมวอยู่ให้สะอาด และปราศจากเชื้อราด้วย ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม อุปกรณ์ ของเล่น รวมไปถึงอาจใช้เครื่องฟอกอากาศช่วยก็จะทำให้โรคนี้หายขาดได้
หากแมวของคุณมีอาการผิดปกติ ขนร่วง หรือต้องการตรวจสุขภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าน้องแมวนั้นมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ดี เราขอแนะนำ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ทางเรามีบริการศูนย์รักษาโรคที่ครบครัน เช่น ศูนย์ผิวหนัง และภูมิแพ้ ที่สำคัญยังอยู่ใกล้ชิดทีมสัตวแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเจ็บป่วยในยามไหน เราก็พร้อมเข้าดูแลสัตว์เลี้ยงที่รักของคุณตลอดเวลา
นอกเหนือจากนี้ทางทีมสัตวแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาล ยังผ่านการฝึกอบรมเรื่องการทำความเข้าใจ เกี่ยวกับพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดี ทำให้มั่นใจได้ว่าสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณ จะมีความสุข และปลอดภัยระหว่างที่คุณต้องเดินทางไกล หากสนใจใช้บริการรับฝากสัตว์เลี้ยง หรือบริการอื่นๆ สามารถติดต่อที่รายละเอียดด้านล่างได้ทันที
Powered by Froala Editor
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยง สนใจบริการ อาบน้ำตัดขน ว่ายน้ำ สั่งซื้อสินค้าสัตว์เลี้ยงออนไลน์ สามารถสอบถามได้ที่
#ThonglorPetHospital #TheBestAlways
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor