สุนัขขาหลังอ่อนแรง วิธีรักษา ทำได้กี่วิธี ?

อาการสุนัขขาหลังไม่มีแรง เดินเซ เดินขาหลังปัด เดินแล้วล้ม หรือลุกนั่งลำบาก เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และสามารถพบได้ทุกช่วงวัยของสุนัข ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากโรคทางกระดูกและข้อสะโพกเสื่อม โรคทางระบบประสาท โรคทางอายุรกรรมอื่นๆ ถ้าหากสังเกตแล้วพบว่าสุนัขของคุณกำลังมีอาการเหล่านี้ ไม่ต้องกังวลใจไปเพราะวันนี้เราจะมานำเสนอ แนวทางป้องกันโรค สุนัขขาหลังอ่อนแรง วิธีรักษา หลายวิธีจากทาง Thonglor Pet Hospital โดยทีมสัตวแพทย์เฉพาะทางของทางโรงพยาบาล

แนวทางป้องกันโรคสุนัขขาหลังอ่อนแรง

อาการสุนัขขาหลังอ่อนแรงสามารถรักษาได้ แต่หลังจากการรักษา จะได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหรือไม่นั้น ทั้งนี้ตัวเจ้าของเองก็ต้องมีแนวทางป้องกันอย่างเหมาะสม เพราะอาการสุนัขขาหลังอ่อนแรง สามารถกลับมาเป็นได้ทุกเมื่อ โดยแนวทางการป้องกัน มีดังนี้

• ไม่เลี้ยงสุนัขบนพื้นที่ลื่น - ควรจัดพื้นที่เลี้ยงดูสุนัขไม่ให้อยู่บริเวณที่พื้นลื่นมากเกินไป เช่น พื้นกระเบื้อง หรือ พื้นหินอ่อน เพราะจะทำให้เกิดการบาดเจ็บของข้อสะโพกได้ง่าย แต่ถ้าหากจำเป็นต้องเลี้ยงบนพื้นลักษณะนี้จริงๆ อาจจะปูแผ่นยางกันลื่นบริเวณที่สุนัขอยู่เป็นประจำ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

• ออกกำลังกายให้สุนัข - นอกจากจะจัดพื้นที่เลี้ยงดูอย่างเหมาะสมแล้ว ควรพาสุนัขออกกำลังกายด้วย เพราะการออกกำลังกายจะทำให้สุนัขของคุณมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง โดยเฉพาะในสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ ที่มักจะเกิดโรคกระดูกและข้อได้ง่าย

• ควบคุมสารอาหารให้ครบถ้วน - การดูแลการกินของสุนัขให้ทานสารอาหารที่ครบถ้วน และเหมาะสมอยู่เป็นประจำก็สำคัญไม่น้อย เพราะสุนัขที่น้ำหนักเกิน (Overweight) มักจะมีแนวโน้มเกิดโรคกระดูกและข้อ หรือ โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงสูง

สุนัขขาหลังอ่อนแรง วิธีรักษา แบ่งออกเป็นกี่วิธี

หลังจากที่ได้รู้แนวทางการป้องกันทั้ง 3 รูปแบบแล้ว ทั้งนี้หากคุณสังเกตอาการของสุนัขแล้วพบว่า สุนัขขาหลังอ่อนแรง วิธีรักษา ที่ถูกต้องคือ พาสุนัขมาพบสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุของโรค และวางแผนการรักษาที่ถูกต้องอย่างเร็วที่สุด ซึ่งแนวทางการรักษา สามารถแบ่งออกเป็น 3 วิธี ได้แก่

1. รักษา ด้วยการทำกายภาพบำบัด

การรักษาด้วยวิธีการทำกายภาพบำบัด เป็นการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ช่วยลดอาการอักเสบและเจ็บปวด เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ เพื่อให้ขากลับมาใช้งานได้ดีมากขึ้น สามารถทำควบคู่กับการรักษาด้วยการกินยา หรือทำหลังจากการผ่าตัด ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีผลข้างเคียง และเกิดผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว เหมาะกับสุนัขทุกช่วงอายุ

2. รักษา ด้วยการกินยา

การรักษาด้วยการกินยา ใช้เพื่อรักษาภาวะการอักเสบ หรือบรรเทาอาการปวดของกล้ามเนื้อ เส้นประสาท หรือกระดูกและข้อ ทำให้ขากลับมาใช้งานได้ดีขึ้น โดยยาส่วนใหญ่ที่ใช้จะเป็นยาลดปวด ยาบำรุงกระดูกและข้อ ที่มีส่วนผสมของ Glucosamine และ Chondroitin Sulfate (เพื่อเสริมสร้างกระดูกอ่อน และน้ำในข้อต่อ)

3.  รักษา ด้วยการผ่าตัด (ในบางกรณี)

การรักษาด้วยการผ่าตัด จะทำเพื่อแก้ไขความผิดปกติของกระดูกและข้อ เพื่อปรับโครงสร้างให้ใกล้เคียงกับปกติ เพื่อแก้ไขหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หรือเพื่อเอาเนื้องอกออก ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีการรักษาที่ตรงจุดที่สุดสำหรับบางกรณี และได้ผลค่อนข้างดี

สุนัขขาหลังอ่อนแรง วิธีรักษาแบบไหนดีที่สุด ?

จะเห็นว่าวิธีการรักษาอาการสุนัขขาหลังอ่อนแรง มีหลายวิธีการด้วยกัน แต่ถ้าหากถามถึงวิธีการรักษาที่เป็นที่นิยม และได้ผลดีในระยะยาวมากที่สุด คือ การทำกายภาพบำบัด เพราะมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด และเหมาะกับสุนัขทุกช่วงวัย ไม่ว่าสาเหตุนั้นจะมาจากโรค หรือความผิดปกติของกระดูกและข้อ ความผิดปกติของระบบประสาท ปัญหาขาหลังอ่อนแรงในสัตว์เลี้ยงของคุณจะดีขึ้น และสามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้ปกติอีกครั้ง

โดยวิธีการรักษาด้วยการกายภาพบำบัด มีจุดประสงค์เพื่อลดอาการปวด ช่วยฟื้นฟู และเสริมสร้างการทำงานของกล้ามเนื้อ ข้อต่อ และระบบประสาท โดยจะมีทั้งแบบใช้อุปกรณ์ และไม่ใช้อุปกรณ์ เช่น การกระตุ้นไฟฟ้า การนวดอัลตราซาวด์ หรือการเลเซอร์ลดความเจ็บปวด ร่วมกับการออกกำลังกายให้ข้อต่อเคลื่อนไหวได้ตามปกติ ฝึกลุกนั่ง เดินสายพานในน้ำ เพื่อเพิ่มมวลและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

นอกจากนี้การกายภาพบำบัด ยังเหมาะกับสุนัขที่มีอายุเยอะมากๆ ไม่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการผ่าตัด หรืออยู่ในภาวะเสี่ยงในการวางยาสลบ ดังนั้นการทำกายภาพบำบัดจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่จะช่วยสุนัขเหล่านั้นให้กลับมาดีขึ้นได้ เมื่อรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว เจ้าของยังสามารถกลับมาทำกายภาพบำบัด ให้น้องหมาด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน

Thonglor Pet Hospital มีทีมสัตวแพทย์ให้คำปรึกษา เกี่ยวกับ สุนัขขาหลังอ่อนแรง วิธีรักษา อย่างถูกต้อง

หากท่านใดมีความกังวลว่าน้องหมาของคุณจะเป็นโรค สุนัขขาหลังอ่อนแรง วิธีรักษา ทำได้อย่างไรบ้าง? อย่างในหัวข้อข้างต้นจะเห็นว่า อาการนี้สามารถรักษาได้หลายวิธี แต่ทางที่ดีต้องหาโรงพยาบาลที่มีสัตวแพทย์เฉพาะทาง สามารถรักษาได้อย่างตรงจุด และใช้เครื่องมือทันสมัย ขอแนะนำ Thonglor Pet Hospital โรงพยาบาลสัตว์ที่มีสัตวแพทย์เฉพาะทาง ทั้งด้านระบบประสาท กระดูกและข้อ และกายภาพบำบัด พร้อมให้คำแนะนำและปรึกษาอย่างตรงจุด ที่สำคัญทางโรงพยาบาลของเรา ยังมีเครื่องมือช่วยการวินิจฉัยโรคครบวงจร เช่น Digital X-ray, CT Scan, MRI ซึ่งเครื่องมือแพทย์ทุกชิ้นมีความทันสมัย สามารถวินิจฉัยได้อย่างละเอียดและแม่นยำ ทำให้คุณมั่นใจได้เลยว่า ทุกเคสการรักษาจะมีประสิทธิภาพสูงสุด

คลินิกรักษาสัตว์ ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ท่านเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เป็นห่วงสัตว์เลี้ยง และต้องการที่ปรึกษาพร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งบริการแบบ Online และ Onsite แบบครบครัน เราขอแนะนำ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ทางเรามีบริการศูนย์รักษาโรคที่ครบครัน เช่น ศูนย์ผิวหนัง ภูมิแพ้ โรคหัวใจแมว และ การกายภาพบำบัดใน สุนัขขาหลังอ่อนแรง ที่สำคัญยังอยู่ใกล้ชิด โดยทีมสัตวแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเจ็บป่วยในยามไหน เราก็พร้อมเข้าดูแลสัตว์เลี้ยงที่รักของคุณตลอดเวลา (กรุณานัดหมายล่วงหน้า)

ท่านเจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ต้องกังวล เพราะ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เรามีสาขาต่างประเทศ ในประเทศเวียดนาม 1 สาขา และ สาขาในประเทศ ครอบคลุมทุกพื้นที่กว่า 20 สาขา  ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาลสัตว์ ศรีนครินทร์ , ติวานนท์ , เชียงใหม่ , ภูเก็ต รวมถึงสาขาในพื้นที่อื่นๆ อีกมากมาย โดยทุกสาขาจะใช้ระบบภายใน ในการจัดการข้อมูลแบบเดียวกัน

นอกเหนือจากนี้ทางทีมสัตวแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาล ยังผ่านการฝึกอบรมเรื่องการทำความเข้าใจ เกี่ยวกับพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดี ทำให้มั่นใจได้ว่าสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณ จะมีความสุข และปลอดภัยระหว่างที่คุณต้องเดินทางไกล หากสนใจใช้บริการรับฝากสัตว์เลี้ยง หรือบริการอื่นๆ สามารถติดต่อที่รายละเอียดด้านล่างได้ทันที 

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยง สนใจบริการ อาบน้ำตัดขน ว่ายน้ำ สั่งซื้อสินค้าสัตว์เลี้ยงออนไลน์ 

สามารถสอบถามได้ที่ Tel. 02-079-9999

LINE @jaothonglor หรือกด LINE_Jaothonglor

Facebook: https://www.facebook.com/ThonglorPet

นัดหมายสัตวแพทย์ หรือบริการอื่นๆ: tlph.club/appointment

สั่งซื้อสินค้าสัตว์เลี้ยงออนไลน์: https://tlpet.club/petshop