สัตว์เลี้ยงมีอาการท้องเสีย อาเจียน ควรตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยงไหม ?

แชร์
สุนัข ,แมว 18 ธันวาคม 2568 9 ครั้ง

อาการอาเจียน กินน้อย หรือท้องเสียเรื้อรังในสัตว์เลี้ยงอาจไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เพราะบางครั้งต้นเหตุอาจซ่อนอยู่ภายในระบบทางเดินอาหารที่เรามองไม่เห็น การตรวจหาสาเหตุของโรคด้วย “เครื่องอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยง” เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้สัตวแพทย์สามารถวินิจฉัยหาสาเหตุความผิดปกติได้อย่างละเอียดและปลอดภัยโดยไม่ต้องผ่าตัด

ตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยงเพื่อรักษาโรคระบบทางเดินอาหาร

การตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยงคืออะไร และทำงานอย่างไร ?

การตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยง คือวิธีการทางการแพทย์ที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) ส่งผ่านเข้าสู่ร่างกายของสัตว์เลี้ยง เป็นหลักการส่งคลื่นเสียงเพื่อตรวจภายใน ทำงานโดยการสะท้อนกลับเมื่อกระทบกับเนื้อเยื่อหรืออวัยวะต่าง ๆ ภายใน จากนั้นเครื่องจะประมวลผลสัญญาณและสะท้อนกลับมาให้กลายเป็นภาพเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์บนหน้าจอ ทำให้สัตวแพทย์สามารถประเมินรูปร่าง ขนาด และโครงสร้างภายในของอวัยวะได้อย่างละเอียด

ความแตกต่างของการตรวจเอกซเรย์และอัลตราซาวนด์

แต่หากพูดถึงการทำอัลตราซาวนด์กับการเอกซเรย์ในสัตว์เลี้ยง หลายคนอาจแยกความแตกต่างกันไม่ออกนัก ซึ่งโดยทั่วไป บริการเอกซเรย์สุนัขและแมวจะเน้นไปทางภาพของโครงสร้างกระดูกและของแข็งภายในมากกว่า โดยจะใช้รังสีเอ็กซ์ (X) ผ่านชั้นผิวและโครงสร้างต่าง ๆ ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดอันตรายจากการโดนรังสี อย่างไรก็ตาม วิธีดังกล่าวจะไม่สามารถทำให้เห็นเนื้อเยื่ออ่อนได้ดีเท่ากับการตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยง

อัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยงกับการตรวจระบบทางเดินอาหาร

สำหรับการตรวจระบบทางเดินอาหารในสัตว์เลี้ยง การทำอัลตราซาวนด์เป็นวิธีที่ช่วยตรวจหาความผิดปกติของกระเพาะและลำไส้ ทั้งยังสามารถหาก้อนเนื้อและสิ่งแปลกปลอมในร่างกายของน้อง ๆ รวมถึงช่วยให้รู้ถึงการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร พร้อมกับรู้ขนาดและโครงสร้างของอวัยวะที่มีปัญหา เช่น ตับโต หรือถุงน้ำดีอักเสบ และยังสามารถใช้เพื่อติดตามผลการรักษาของโรคทางเดินอาหารเรื้อรังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างอาการทางเดินอาหารของสัตว์เลี้ยงที่ตรวจด้วยอัลตราซาวนด์

  • การอักเสบของกระเพาะหรือลำไส้
  • การพบก้อนเนื้อหรือสิ่งแปลกปลอม เช่น เศษพลาสติกหรือของเล่นที่สัตว์กลืนเข้าไป
  • ตรวจดูความหนาของผนังลำไส้ ซึ่งอาจบ่งชี้โรคเรื้อรัง เช่น ลำไส้อักเสบ (IBD) เป็นต้น
  • ประเมินตับและถุงน้ำดี เพื่อดูภาวะตับโต ตับแข็ง หรือถุงน้ำดีอักเสบ

นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ติดตามผลหลังการรักษาโรคทางเดินอาหารของสัตว์เลี้ยง เช่น ตรวจว่าระดับการอักเสบของอวัยวะลดลงหรือไม่ รวมถึงติดตามขนาดก้อนเนื้อหลังทำการรักษา ซึ่งจะทำให้เจ้าของและสัตวแพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

กรณีตัวอย่างที่ต้องใช้การตรวจอัลตราซาวนด์ในสัตว์เลี้ยง

ตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยงเมื่อสุนัขมีอาการอาเจียนผิดปกติ

ปัจจุบันมักพบเคสที่น้องหมาน้องแมว ต้องใช้วิธีการตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยงเพื่อช่วยตรวจวินิจฉัยโรค โดยเฉพาะเมื่อสัตว์มีอาการเรื้อรังหรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั่วไป เช่น

  • สุนัขกลืนของเล่น : เคสแบบนี้มักพบในสุนัขพันธุ์เล็กที่ชอบกัดเล่นสิ่งของ การทำอัลตราซาวนด์จะช่วยให้เห็นสิ่งแปลกปลอมในกระเพาะได้ชัดเจนโดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดท้องในทันที
  • แมวกินสิ่งแปลกปลอม : แมวบางตัวอาจกลืนเส้นด้ายหรือพลาสติกเข้าไป ซึ่งมักตรวจพบจากการอัลตราซาวนด์ก่อนเกิดการอุดตันรุนแรง
  • สัตว์ที่อาเจียนเรื้อรัง : เมื่ออาการไม่ชัดเจนว่าเกิดจากระบบอาหารหรืออวัยวะอื่น ๆ การทำอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยงจะช่วยให้เห็นลำไส้หรือตับที่ผิดปกติ
  • ท้องเสียเรื้อรังแม้เปลี่ยนอาหารแล้ว : ภาพจากอัลตราซาวนด์จะช่วยแยกได้ว่าเกิดจากการอักเสบของลำไส้หรือภาวะอื่น เช่น ภูมิแพ้ในระบบย่อยอาหาร

กรณีเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเครื่องมือดังกล่าวไม่ได้ใช้เฉพาะในภาวะฉุกเฉินเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของการตรวจสุขภาพเชิงป้องกันให้กับสัตว์เลี้ยงอีกด้วย

ขั้นตอนการตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยง

ไม่ว่าจะเป็นบริการเอกซเรย์แมวหรือสุนัข ตลอดจนการตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยง ต่างก็เป็นวิธีที่ใช้เวลาไม่นาน ซึ่งเจ้าของสามารถเตรียมตัวและทำความเข้าใจขั้นตอนต่าง ๆ ได้ดังนี้

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจ

  • งดอาหารเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง แต่สามารถให้น้ำได้ตามปกติ
  • ในบางกรณีต้องโกนขนบริเวณท้องหรือหน้าอก เพื่อให้หัวตรวจสัมผัสผิวหนังโดยตรง
  • ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ ยกเว้นสัตว์ที่เคลื่อนไหวมากหรือมีความเครียดสูง ซึ่งจะใช้ยาคลายกังวลในปริมาณน้อยเท่านั้น

ระหว่างการตรวจอัลตราซาวนด์

สัตวแพทย์จะใช้หัวอัลตราซาวนด์ (Ultrasound Probe) ส่งคลื่นเสียงความถี่สูงเข้าสู่ร่างกาย โดยคลื่นเสียงสะท้อนกลับมาเป็นภาพแสดงบนหน้าจอ ทำให้สัตวแพทย์สามารถเห็นโครงสร้างของอวัยวะภายใน ที่เป็นสาเหตุของความผิดปกติที่เกิดขึ้น

  • สัตว์เลี้ยงจะถูกวางให้นอนตะแคงหรือนอนหงายบนโต๊ะตรวจ
  • สัตวแพทย์ทาเจลใสลงบนผิวหนัง เพื่อช่วยให้คลื่นเสียงส่งผ่านได้ดี
  • จากนั้นจะใช้หัวตรวจเลื่อนช้า ๆ บริเวณที่ต้องการตรวจ เช่น ท้อง ช่องอก หรือหัวใจ
  • ระหว่างตรวจ สัตว์จะไม่รู้สึกเจ็บ มีเพียงแรงกดเบา ๆ จากหัวตรวจเท่านั้น

*โดยทั่วไป การตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยงใช้เวลาประมาณ 15–30 นาที ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและจำนวนอวัยวะที่ต้องตรวจ

หลังตรวจอัลตราซาวนด์

หลังจากตรวจเสร็จ สัตวแพทย์จะทำการวิเคราะห์ภาพที่ได้ และอธิบายผลเบื้องต้นให้เจ้าของทราบ เช่น พบการอักเสบ ก้อนเนื้อ หรือสิ่งแปลกปลอมในระบบทางเดินอาหาร หากพบความผิดปกติอาจแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด แต่ถ้าหากไม่พบอะไร ก็สามารถพาสสัตว์เลี้ยงกลับบ้านได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น และไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ

ข้อดีของการตรวจอัลตราซาวนด์ในสัตว์ที่มีปัญหาระบบทางเดินอาหาร

  • สามารถวินิจฉัยโรคได้เร็วและแม่นยำกว่าการสังเกตอาการภายนอก : อาการทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ภาวะเบื่ออาหาร อาเจียน หรือท้องเสีย อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การอักเสบของกระเพาะ ลำไส้อุดตัน หรือมีสิ่งแปลกปลอมในช่องท้อง การทำอัลตราซาวนด์จะช่วยให้สัตวแพทย์เห็นความผิดปกติของอวัยวะได้ชัดเจนและระบุสาเหตุของโรคได้ตรงจุด
  • ช่วยลดความเสี่ยงจากการผ่าตัดที่ไม่จำเป็น : แทนที่จะต้องเปิดช่องท้องเพื่อตรวจหาความผิดปกติ การทำอัลตราซาวนด์สามารถบอกได้ล่วงหน้าว่าจำเป็นต้องผ่าตัดหรือไม่ ทำให้สัตว์เลี้ยงหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดและลดความเสี่ยงจากการดมยาสลบได้อย่างมาก
  • เหมาะสำหรับสัตว์เลี้ยงทุกวัย โดยเฉพาะสัตว์ที่อายุเยอะ : เพราะสัตว์เลี้ยงที่มีอายุมาก มักจะมีปัญหาทางเดินอาหารเรื้อรัง เช่น ตับอ่อนอักเสบ หรือลำไส้ดูดซึมไม่ดี การตรวจอัลตราซาวนด์จะช่วยติดตามพัฒนาการของโรคได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ทำให้เกิดอันตราย

โดยรวมแล้ว การตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยงถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย แม่นยำ และช่วยให้สัตวแพทย์วางแผนการรักษาได้เหมาะสมกับอาการของสัตว์เลี้ยงแต่ละตัว ทั้งยังเป็นการดูแลเชิงป้องกันที่ช่วยให้เจ้าของรับมือกับโรคได้ก่อนจะลุกลาม

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ พร้อมให้บริการตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยง

หากกำลังมองหาสถานที่เพื่อพาน้อง ๆ ไปใช้บริการเอกซเรย์สุนัขและแมว รวมถึงบริการตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร ศูนย์รังสีวินิจฉัยและอัลตราซาวนด์ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อพร้อมอยู่เคียงข้างคุณ ! เราให้บริการอย่างใกล้ชิดทุกขั้น โดยทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเพื่อวินิจฉัย หรือติดตามอาการป่วยทางเดินอาหารเรื้อรัง เราก็พร้อมช่วยอำนวยความสะดวกให้ตลอดการตรวจและรักษาอย่างอุ่นใจ

เพราะสำหรับเรา ทุก ๆ วินาทีของการตรวจเชิงป้องกันและรักษาสัตว์เลี้ยง คือความสำคัญที่ไม่ควรปล่อยผ่าน ติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 02-079-9999 หรือ Line Official @jaothonglor

ข้อมูลอ้างอิง:

Diagnosing Pets: Which Is Better, X-Ray or Ultrasound?. สืบค้นวันที่ 12 ตุลาคม 2568 จาก https://ccanimalclinic.com/news/diagnosing-pets-which-is-better-x-ray-or-ultrasound



หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยง สนใจบริการ อาบน้ำตัดขน ว่ายน้ำ สั่งซื้อสินค้าสัตว์เลี้ยงออนไลน์ สามารถสอบถามได้ที่


#ThonglorPetHospital #TheBestAlways

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor