อาการอาเจียน กินน้อย หรือท้องเสียเรื้อรังในสัตว์เลี้ยงอาจไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เพราะบางครั้งต้นเหตุอาจซ่อนอยู่ภายในระบบทางเดินอาหารที่เรามองไม่เห็น การตรวจหาสาเหตุของโรคด้วย “เครื่องอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยง” เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้สัตวแพทย์สามารถวินิจฉัยหาสาเหตุความผิดปกติได้อย่างละเอียดและปลอดภัยโดยไม่ต้องผ่าตัด
การตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยง คือวิธีการทางการแพทย์ที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) ส่งผ่านเข้าสู่ร่างกายของสัตว์เลี้ยง เป็นหลักการส่งคลื่นเสียงเพื่อตรวจภายใน ทำงานโดยการสะท้อนกลับเมื่อกระทบกับเนื้อเยื่อหรืออวัยวะต่าง ๆ ภายใน จากนั้นเครื่องจะประมวลผลสัญญาณและสะท้อนกลับมาให้กลายเป็นภาพเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์บนหน้าจอ ทำให้สัตวแพทย์สามารถประเมินรูปร่าง ขนาด และโครงสร้างภายในของอวัยวะได้อย่างละเอียด
แต่หากพูดถึงการทำอัลตราซาวนด์กับการเอกซเรย์ในสัตว์เลี้ยง หลายคนอาจแยกความแตกต่างกันไม่ออกนัก ซึ่งโดยทั่วไป บริการเอกซเรย์สุนัขและแมวจะเน้นไปทางภาพของโครงสร้างกระดูกและของแข็งภายในมากกว่า โดยจะใช้รังสีเอ็กซ์ (X) ผ่านชั้นผิวและโครงสร้างต่าง ๆ ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดอันตรายจากการโดนรังสี อย่างไรก็ตาม วิธีดังกล่าวจะไม่สามารถทำให้เห็นเนื้อเยื่ออ่อนได้ดีเท่ากับการตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยง
สำหรับการตรวจระบบทางเดินอาหารในสัตว์เลี้ยง การทำอัลตราซาวนด์เป็นวิธีที่ช่วยตรวจหาความผิดปกติของกระเพาะและลำไส้ ทั้งยังสามารถหาก้อนเนื้อและสิ่งแปลกปลอมในร่างกายของน้อง ๆ รวมถึงช่วยให้รู้ถึงการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร พร้อมกับรู้ขนาดและโครงสร้างของอวัยวะที่มีปัญหา เช่น ตับโต หรือถุงน้ำดีอักเสบ และยังสามารถใช้เพื่อติดตามผลการรักษาของโรคทางเดินอาหารเรื้อรังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ติดตามผลหลังการรักษาโรคทางเดินอาหารของสัตว์เลี้ยง เช่น ตรวจว่าระดับการอักเสบของอวัยวะลดลงหรือไม่ รวมถึงติดตามขนาดก้อนเนื้อหลังทำการรักษา ซึ่งจะทำให้เจ้าของและสัตวแพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

ปัจจุบันมักพบเคสที่น้องหมาน้องแมว ต้องใช้วิธีการตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยงเพื่อช่วยตรวจวินิจฉัยโรค โดยเฉพาะเมื่อสัตว์มีอาการเรื้อรังหรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั่วไป เช่น
กรณีเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเครื่องมือดังกล่าวไม่ได้ใช้เฉพาะในภาวะฉุกเฉินเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของการตรวจสุขภาพเชิงป้องกันให้กับสัตว์เลี้ยงอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นบริการเอกซเรย์แมวหรือสุนัข ตลอดจนการตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยง ต่างก็เป็นวิธีที่ใช้เวลาไม่นาน ซึ่งเจ้าของสามารถเตรียมตัวและทำความเข้าใจขั้นตอนต่าง ๆ ได้ดังนี้
สัตวแพทย์จะใช้หัวอัลตราซาวนด์ (Ultrasound Probe) ส่งคลื่นเสียงความถี่สูงเข้าสู่ร่างกาย โดยคลื่นเสียงสะท้อนกลับมาเป็นภาพแสดงบนหน้าจอ ทำให้สัตวแพทย์สามารถเห็นโครงสร้างของอวัยวะภายใน ที่เป็นสาเหตุของความผิดปกติที่เกิดขึ้น
*โดยทั่วไป การตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยงใช้เวลาประมาณ 15–30 นาที ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและจำนวนอวัยวะที่ต้องตรวจ
หลังจากตรวจเสร็จ สัตวแพทย์จะทำการวิเคราะห์ภาพที่ได้ และอธิบายผลเบื้องต้นให้เจ้าของทราบ เช่น พบการอักเสบ ก้อนเนื้อ หรือสิ่งแปลกปลอมในระบบทางเดินอาหาร หากพบความผิดปกติอาจแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด แต่ถ้าหากไม่พบอะไร ก็สามารถพาสสัตว์เลี้ยงกลับบ้านได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น และไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ
โดยรวมแล้ว การตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยงถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย แม่นยำ และช่วยให้สัตวแพทย์วางแผนการรักษาได้เหมาะสมกับอาการของสัตว์เลี้ยงแต่ละตัว ทั้งยังเป็นการดูแลเชิงป้องกันที่ช่วยให้เจ้าของรับมือกับโรคได้ก่อนจะลุกลาม
หากกำลังมองหาสถานที่เพื่อพาน้อง ๆ ไปใช้บริการเอกซเรย์สุนัขและแมว รวมถึงบริการตรวจอัลตราซาวนด์สัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร ศูนย์รังสีวินิจฉัยและอัลตราซาวนด์ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อพร้อมอยู่เคียงข้างคุณ ! เราให้บริการอย่างใกล้ชิดทุกขั้น โดยทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเพื่อวินิจฉัย หรือติดตามอาการป่วยทางเดินอาหารเรื้อรัง เราก็พร้อมช่วยอำนวยความสะดวกให้ตลอดการตรวจและรักษาอย่างอุ่นใจ
เพราะสำหรับเรา ทุก ๆ วินาทีของการตรวจเชิงป้องกันและรักษาสัตว์เลี้ยง คือความสำคัญที่ไม่ควรปล่อยผ่าน ติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 02-079-9999 หรือ Line Official @jaothonglor
ข้อมูลอ้างอิง:
Diagnosing Pets: Which Is Better, X-Ray or Ultrasound?. สืบค้นวันที่ 12 ตุลาคม 2568 จาก https://ccanimalclinic.com/news/diagnosing-pets-which-is-better-x-ray-or-ultrasound
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยง สนใจบริการ อาบน้ำตัดขน ว่ายน้ำ สั่งซื้อสินค้าสัตว์เลี้ยงออนไลน์ สามารถสอบถามได้ที่
#ThonglorPetHospital #TheBestAlways
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor