นอกจากความขนฟู ขี้อ้อนและความน่ารักแล้ว น้องแมวยังมีมุมที่ทำให้ทาสหลาย ๆ คนต้องปวดหัวอยู่เป็นประจำเมื่อเกิดอาการฮีท หรืออาการติดสัด ซึ่งสามารถแสดงออกมาได้หลากหลายท่าทาง ไม่ว่าจะเป็นการที่แมวขับถ่ายไปทั่วบริเวณที่พักอาศัย ร้องเสียงดังตลอดทั้งวันทั้งคืน มีนิสัยก้าวร้าวมากยิ่งขึ้น ไปจนถึงหนีออกจากบ้านเลยก็มี ซึ่งถ้าหากน้องแมวของคุณมีอาการเหล่านี้ล่ะก็ อาจถึงเวลาทีต้องจัดการด้วยวิธีทำหมันแมว! ก็เป็นได้
โดยปกติแล้วช่วงอายุที่แมวเริ่มมีอาการฮีทหรือติดสัดนั้น จะแตกต่างกันออกไปในแมวแต่ละตัว รวมถึงเพศด้วย แต่ถ้าหากพูดโดยรวม อาจบอกได้ว่าแมวตัวเมียนั้นมักเริ่มมีอาการฮีทก่อนแมวตัวผู้ โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ตั้งแต่อายุประมาณ 5-7 เดือนเป็นต้นไป ส่วนแมวตัวผู้นั้นมักเริ่มมีอาการฮีทตั้งแต่ช่วง 9-12 เดือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจแตกต่างกันไปในแมวแต่ละตัว แนะนำว่าให้คุณคอยสังเกตอาการของอย่างใกล้ชิดว่าเจ้านายตัวน้อยมีอาการฮีทแล้วหรือยัง ซึ่งสามารถสังเกตได้จากอาการร้องเสียงดัง หงุดหงิด หนีออกจากบ้าน หรือการขับถ่ายไม่เป็นที่นั่นเอง
เชื่อว่าทาสแมวอาจจะเคยได้ยินมาว่าสำหรับน้องแมวตัวผู้นั้น ควรพาไปทำหมันตอนที่อายุครบ 12 เดือนเป็นต้นไป เพื่อช่วยป้องกันและลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ในภายหลัง เช่นอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น น้องแมวตัวผู้สามารถเข้ารับการทำหมันได้ตั้งแต่อายุยังไม่ครบ 12 เดือน แต่มีข้อแม้ว่าน้องแมวจะต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง รวมถึงอัณฑะของน้องแมวทั้งสองข้างจะต้องลงมาในถุงอัณฑะอย่างสมบูรณ์แล้ว หากทาสยังไม่แน่ใจว่าน้องแมวที่บ้านสามารถทำหมันได้หรือยัง ก็สามารถพาน้องแมวมาตรวจสุขภาพและตรวจร่างกายเพื่อเช็กความพร้อมก่อนทำหมันได้ที่โรงพยาบาลสัตว์ แต่ถ้าหากน้องแมวตัวผู้ไม่มีอาการฮีทจนถึงอายุ 1 ปี ก็สามารถพาไปทำหมันได้เลย
สำหรับการทำหมันแมวตัวเมียนั้นถือว่าซับซ้อนน้อยกว่าการทำหมันแมวตัวผู้ เพราะว่าสามารถพาแมวตัวเมียไปทำหมันได้ตั้งแต่อายุ 3-5 เดือน หรือสังเกตจากน้ำหนักตัวของแมวก็ได้ หากแมวตัวเมียมีน้ำหนักเกิน 2 กิโลกรัมแล้ว ก็ถือว่าสามารถเข้ารับการผ่าตัดทำหมันได้อย่างปลอดภัย แต่ข้อควรระวังในการทำหมันแมวตัวเมียก็คือ จะต้องไม่ทำหมันในช่วงที่แมวมีอาการฮีท เพราะเป็นช่วงที่มดลูกมีการขยายตัว จะทำให้เกิดอาการเสียเลือดมากได้ ดังนั้นหากน้องแมวตัวเมียที่บ้านฮีทหนักมาก ก็ขอให้รอจนหายฮีทเสียก่อน แล้วค่อยนำเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและดำเนินการทำหมันในขั้นต่อไป
สำหรับเรื่องของค่าใช้จ่ายในการทำหมันแมวนั้นต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้ในการวางยาสลบ รวมถึงยังมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่ทาสแมวจะต้องรู้เกี่ยวกับการทำหมันแมวราคาต่าง ๆ ก็คือเรื่องของวิธีวางยาสลบก่อนทำหมันน้องแมว ซึ่งมีทั้งหมด 2 วิธีด้วยกันได้แก่
หลังจากการผ่าตัดทำหมันในแมวแล้ว หากรับแมวกลับมาที่บ้าน ก็ควรรอให้แมวรู้สึกตัวดีก่อนที่จะให้อาหารหรือน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้แมวเกิดอาการสำลักอาหาร (ซึ่งอาจจะทำให้น้องแมวเสียชีวิตได้) อีกทั้งยังควรมีบริเวณเพื่อให้น้องแมวได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และเหมาะสมกับการฟื้นตัวจากการผ่าตัด หากมียาสำหรับกินหรือทา ก็ควรให้ยากับน้องแมวอย่างตรงเวลา อีกทั้งยังต้องใส่คอลล่าให้กับแมวตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้แมวเลียแผล หรือกัดไหมที่เย็บแผลไว้นั่นเองหลังจากน้องแมวฟื้นตัวดี ตัดไหมเรียบร้อยแล้ว ก็ควรดูแลเรื่องอาหารให้กับเหล่าเจ้านายมากกว่าเดิม เพราะหลังจากทำหมัน แมวอาจจะมีนิสัยที่เปลี่ยนไป เช่น นอนมากขึ้น ทำกิจกรรมน้อยลง รวมถึงระดับฮอร์โมนและการเผาผลาญต่าง ๆ ก็น้อยตามลงไปด้วย ทำให้ต้องเลือกให้อาหารสูตรสำหรับแมวทำหมัน เพื่อไม่ให้น้องแมวมีน้ำหนักตัวที่มากจนเกินไป เพราะจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้
หากทาสแมวทั้งหลายกำลังมองหาคลินิกทำหมันแมวหรือต้องการตรวจสุขภาพและความพร้อมของน้องแมวก่อนทำหมัน ก็สามารถทำการนัดหมายกับทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยที่เบอร์โทรศัพท์ 02-079-9999
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยง สนใจบริการ อาบน้ำตัดขน ว่ายน้ำ สั่งซื้อสินค้าสัตว์เลี้ยงออนไลน์ สามารถสอบถามได้ที่
#ThonglorPetHospital #TheBestAlways
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor