การดูแลสัตว์เลี้ยงให้มีสุขภาพแข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสัตว์เลี้ยงทั้งสุนัขและแมวจะมีความต้องการพลังงาน (energy requirements) ที่แตกต่างกัน โดยที่ร่างกายของสัตว์เลี้ยงจะต้องการพลังงานจากอาหารมากบ้างน้อยบ้างเพื่อชดเชยพลังงานที่ถูกใช้และสูญเสียไปในแต่ละวัน ทั้งนี้ปัจจัยที่มีผลต่อความต้องการพลังงานของสัตว์มีอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน ได้แก่ อายุ สภาพทางสรีรวิทยา เช่น ลูกสัตว์ที่กำลังเจริญเติบโต แม่สัตว์ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือแม่สัตว์ที่กำลังให้นมลูก เป็นต้น การทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ขนาดตัวของสัตว์ (โดยเฉพาะลูกสุนัข) การทำหมัน (โดยเฉพาะในแมว)
การที่สัตว์เลี้ยงจะได้รับพลังงานที่เพียงพอต่อความต้องการนั้นก็ต้องได้รับอาหารที่เหมาะสมและคุณภาพดีซึ่งทั้งอาหารสุนัขและแมวมีให้เลือกมากมายจนน่าสับสน ดังนั้นคำแนะนำในการเลือกอาหารที่เหมาะสมและดีที่สุดอย่างแรกคือ สถานที่ที่หาซื้อได้ซี่งพนักงานขายในร้านเพ็ทช็อปและสัตวแพทย์สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับการให้อาหารโดยขึ้นอยู่กับอายุ ขนาด พันธุ์ และปฏิกิริยาตอบสนองที่สังเกตได้อื่นๆ ลำดับต่อมาคือการมองหาคุณภาพ โดยตรวจดูรายชื่อส่วนผสมเพื่อดูว่ามีสิ่งใดอยู่ในอาหารจริงๆ ได้แก่ โปรตีนที่ได้จากสัตว์ เช่น ไก่ เป็นส่วนผสมสำคัญอันดับแรก และมีการเพิ่มสมดุลอาหารด้วยธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสีและมีใยอาหารเช่น เยื่อหัวบีท นอกจากนี้อาหารจะต้องไม่ใส่สีสังเคราะห์ และสารแต่งกลิ่นสังเคราะห์หรือสารกันบูด นอกจากมองหาคุณภาพแล้วสิ่งสำคัญคือการมองหาคุณค่าสูงสุดด้วย โดยอาหารเม็ดเกรดพรีเมี่ยมจะมีคำแนะนำในการให้อาหารอย่างละเอียดโดยขึ้นอยู่กับขนาดของสัตว์เลี้ยง ซึ่งจากคำแนะนำดังกล่าวจะช่วยให้สามารถคำนวณปริมาณอาหารที่จะให้สัตว์เลี้ยงจากน้ำหนักตัวและจำนวนมื้ออาหารที่จะให้ได้จากอาหาร 1 ถุง ซึ่งถ้าเปรียบเทียบราคาอาหารต่อมื้อกับอาหารเม็ดแบบถุงอาจจะดูแพงแต่อาจใช้เลี้ยงสุนัขได้นานหลายเดือน สำหรับอาหารกระป๋องนั้นอาจมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่ถึงร้อยละ 80 และต้องใช้ให้หมดอย่างรวดเร็วหลังจากเปิดกระป๋อง ส่วนอาหารแห้งชนิดเม็ดนั้นมีน้ำเป็นส่วนประกอบไม่ถึงร้อยละ 10 สามารถใช้ได้นานเป็นสัปดาห์หลังจากเปิดบรรจุภัณฑ์ และอีกคำแนะนำที่สำคัญคือให้อาหารเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือนอกจากอาหารที่ครบถ้วนสมดุลและน้ำสะอาดแล้ว สัตว์เลี้ยงจะไม่ต้องการสารอาหารอย่างอื่นอีก ซึ่งหากสัตว์เลี้ยงเหล่านี้มีอาการท้องเสียก็อย่าด่วนสรุปว่าเป็นเพราะอาหารที่กินอยู่เพราะอาจเกิดจากกินกินอะไรอย่างอื่นระหว่างที่เดินเล่นก็ได้ ดังนั้นไม่ควรเปลี่ยนอาหารที่กินอยู่เว้นแต่สัตวแพทย์จะแนะนำเท่านั้น สำหรับขนม หรือบิสกิต ที่เอาไว้ฝึกสัตว์เลี้ยงนั้นสามารถหาซื้อได้ตามร้านเพ็ทช็อป
สำหรับการให้อาหารสัตว์เลี้ยงนั้นควรให้อาหารวันละ 3 มื้อในลูกสัตว์จนอายุได้ประมาณ 6 เดือนทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของพันธุ์ หลังจาก 6 เดือนจึงลดอาหารเหลือวันละ 2 มื้อ โดยปฏิบัติตามคำแนะนำในการให้อาหารและแน่ใจว่ามีน้ำสะอาดเตรียมไว้เสมอ ซึ่งหากสัตว์เลี้ยงได้รับอาหารที่สมดุล เหมาะสม และคุณภาพดีก็สามารถสังเกตได้ถึงสัญญาณของสุขภาพที่ดีได้ด้วยตา ได้แก่ ฟันสะอาด ขนมันเงางาม กล้ามเนื้อที่ไม่มีไขมัน กระฉับกระเฉงและกระตือรือร้น อุจจาระเป็นก้อน เป็นต้น สิ่งที่ต้องระวังคือลูกสัตว์ที่อ้วนเกินไปจะโตไปและกลายเป็นโรคอ้วนซึ่งเสี่ยงต่อโรคอื่นๆ ที่จะตามมาได้ดังนั้นจึงควรทำตามคำแนะนำในการให้อาหารเสมอเพื่อรักษาระดับน้ำหนักที่เหมาะสมที่สุด
นอกจากการจัดหาโภชนาการที่ดีแล้วการดูแลในแต่ละวันก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยอันดับแรกคือการสังเกตลักษณะภายนอก การยืน เดิน นั่ง จนถึงการลูบตัวลงมาจนถึงขาและเท้า ตรวจดูตา หู และเล็บ อาจจะค่อยๆ เปิดดูช่องปากไล่นิ้วคลำไปตามเหงือกและฟันเพื่อดูสุขภาพเหงือกและฟัน ควรมีการแปรงฟัน ตัดเล็บ ทำความสะอาดหู อาบน้ำ และแปรงขนอย่างเป็นประจำด้วย นอกจากนี้จะต้องมีการตรวจสุขภาพโดยการพบสัตวแพทย์เป็นประจำตามกำหนดเพื่อเป็นกุญแจสำคัญสำหรับสุขภาพที่ดีและความสุขที่ยืนยาวด้วย
น.สพ.วีระพงษ์ เวียงหลวง
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยง สนใจบริการ อาบน้ำตัดขน ว่ายน้ำ สั่งซื้อสินค้าสัตว์เลี้ยงออนไลน์ สามารถสอบถามได้ที่
#ThonglorPetHospital
#ChooseTheBestForYourPets
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor