1. อาหาร ลูกสุนัขมีกระเพาะอาหารขนาดเล็ก จึงควรให้อาหารครั้งละน้อยๆแต่บ่อยๆการให้อาหารก้ควรค่อยๆเปลี่ยน

• จำนวนมื้ออาหาร  ขึ้นกับพันธุ์และลูกสุนัขแต่ละตัว ลูกสุนัขอายุ6 สัปดาห์ – 4เดือน ให้กินวันละ 3-4 มื้อ อายุ 4-12 เดือน ให้กินวันละ 2 มื้อ
• ปริมาณอาหาร   ในลูกสุนัขให้กินในปริมาณที่สามารถกินหมดภายใน 10-15 นาที สำหรับอาหารสำเร็จรูปส่วนใหญ่จะบอกปริมาณคร่าวๆที่สุนัขกินเอาไว้ แต่ต้องปรับให้เหมาะสมกับลูกสุนัขแต่ละตัวอย่าให้ลูกสุนัขกินมากเกินไป เพราะจะทำให้เกิดปัญหาโรคข้อกระดูกและโรคอ้วนได้ในอนาคต
• น้ำ   มีน้ำสะอาดให้ตลอดเวลา
• นม  ไม่จำเป็นสำหรับลูกสุนัข  ถ้าต้องการให้นมควรให้นมที่ไม่มีน้ำตาลแลคโตส เช่นนมถั่วเหลือง หรือสำหรับลูกสัตว์ ไม่ควรให้นมวัว เพราะจะทำให้สุนัขปวดท้องและท้องเสียได้
• ธัญพืช   สามารถให้ได้เช่นข้าว
• เนื้อ เป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญ แต่การให้เนื้ออย่างเดียวจะได้รับสารอาหารที่ไม่สมดุล
• อาหารกระป๋อง  ควรให้อาหารสำหรับสูตรลูกสุนัขนั้น เพราะมีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน
•  และสมดุลต่อความต้องการของลูกสุนัข
• อาหารแห้ง   เป็นอาหารสำเร็จรูป มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วนและสมดุล มีหลายสูตร คือสูตรสำหรับลูกสุนัข สุนัขโตและสุนัขแก่ โดยแต่ละสูตรจะมีคุณค่าทางอาหารเหมาะสมกับแต่ละวัย
• ผัก  เป็นอาหารเสริมที่ดี ให้กินได้ทั้งดิบและสุกกินได้ทุกชนิด ยกเว้นหอม ซึ่งอาจจะทำลายเม็ดเลือดแดง
• แคลเซียม  จำเป็นต่อกระดูกที่ต้องการการเจริญเติบโต แต่ถ้าลูกสุนัขกินอาหารสำเร็จรูป ก้ไม่จำเป็นต้องเสริมแคลเซียม
• วิตามิน หากใช้อาหารสำเร็จรุป ก้ไม่ต้องเสริมวิตามิน เว้นเสียแต่ว่าอาหารไม่สมดุล
• กระดูก หากต้องการให้กระดูกสำหรับแทะ เพื่อทำความสะอาดฟันควรเป็นกระดูกชิ้นโตๆที่ลูกสุนัขไม่สามารถกลืนเข้าไปได้ ไม่ควรให้กระดูกไก่เพราะจะทำให้แตกง่ายและทำให้เกิดปัญหาที่ตามมา

2. วัคซีน ลูกสุนัขได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคไข้หัดสุนัข ตับอักเสบ ลำไส้อักเสบ เพราะโรคเหล่านั้นเป็นอันตรายถึงตายและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาก้สูงมาก นอกจากนี้ต้องได้รับการฉีควัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งเป็นโรคสัตว์ติดคนและทำให้ถึงตายได้

โปรดจำไว้ว่า...สุนัขของคุณจะยังมีภูมิคุ้มกันไม่พอจนกว่าจะได้วัคซีนครบ ฉะนั้นระวังอย่าให้ลูกสุนัขไปเล่นกับสุนัขตัวอื่นที่น่าสงสัยหรือพาไปสถานที่สาธารณะอื่นๆ จนกว่าจะได้รับวัคซีนครบ

3. การถ่ายพยาธิ  พยาธิที่พบในลำไส้สุนัขมีทั้งหมด 4 ชนิด  คือ ตัวกลม ตัวตืด แส้ม้าและปากขอ โดยลูกสุนัขควรได้รับการถ่ายพยาธิ ทุก3 สัปดาห์ จนกระทั่งอายุครบ 12 สัปดาห์ ช่วงอายุ 3-6เดือน ให้ถ่ายพยาธิเดือนละครั้ง อายุ6 เดือน ขึ้นไปให้ถ่ายพยาธิทุกๆ3เดือน แม้แต่ในสุนัขที่เลี้ยงไว้ในบ้านก็ควรถ่ายพยาธิเช่นเดียวกัน

4. พยาธิหนอนหัวใจ พยาธิหนอนหัวใจ สามารถติดต่อได้โดยถูกยุงที่มีเชื้อกัด ตัวอ่อนจะไปเจริญเป็นพยาธิตัวแก่และอาศัยอยู่ในหัวใจ ทำให้เกิดโรคหัวใจที่ตามมาได้ โดยให้เริ่มป้องกันตั้งแต่อายุ 2-3เดือน เดือนละครั้งไปจนตลอดชีวิต แม้แต่ในสุนัขที่เลี้ยงไว้ในบ้านก้ควรถ่ายพยาธิเช่นเดียวกัน

5. การควบคุมเห็บหมัด เห็บหมัดเป็นต้นเหตุทำให้เกิดโรคผิวหนังในสุนัขได้บ่อยมาก โรคพยาธิเม็ดเลือด การควบคุมเห็บหมัดต้องทำทั้งบนตัวสุนัขและในสิ่งแวดล้อม มีผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิดที่ใช้ควบคุมเห็บหมัดทั้งในรูปแบบของแชมพู น้ำยาหยอดหลัง ยากิน สเปรย์ ปลอกคอ แป้ง ควรปรึกษาสัตวแพทย์หากมีข้อสงสัยในการใช้

6. การอาบน้ำดูแลขน ควรอาบน้ำสัปดาห์ละครั้งโดยใช้แชมพูที่เหมาะสมไม่ควรใช้แชมพูของคนเพราะ PH  ของคนและสุนัขไม่เท่ากันและควรปล่อยแชมพูดทิ้งไว้บนจัวสุนัข 5-10 นาที โดยระหว่างนี้ก้ให้ชวนสุนัขเล่นจึงค่อยล้างออกให้สะอาด เมื่อขนแห้งแล้วให้แปรงขนและควรแปรงขนทุกวันเพื่อรักษาสภาพขนและผิวหนังให้ดีอยู่เสมอ

7. การแปรงฟัน ควรฝึกให้ลูกสุนัขคุ้นเคยกับการแปรงฟันตั้งแต่เล็กๆปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก โดยเฉพาะสำหรับสุนัข ยาสีฟัน แปรง ปลอกนิ้วสวมไว้ถูฟัน ไม่ควรใช้ยาสีฟันคนกับสุนัข เพราะสุนัขไม่มีการบ้วนปาก แต่จะกลืนลงไปทำให้ได้รับยาสีฟัน โดยเฉพาะฟูออนไรด์มากเกินไปจนอาจเกิดพิษได้ ยาสีฟันสำหรับสุนัขมีกลิ่นและรสชาติที่สุนัขชอบ ทำให้ง่ายต่อการแปรงฟัน  ควรเริ่มแปรง ตั้งแต่อายุสุนัข 2-3 เดือน  แปรงให้ทุกวัน วันละ1ครั้งก่อนนอน หรืออย่างน้อยอาทิตย์ละสามครั้ง เพื่อสุขภาพเหลือกและฟันที่ดีของเค้าตลอดไป

8. การทำหมัน  หากเราไม่ต้องการจะส่งประกวดสุนัขหรือต้องการลูกก้ให้ทำหมันเสียเพราะข้อดี คือในสุนัขเพศเมีย จะทำให้ลดปัญหาความไม่สะดวกต่างๆ ระหว่างการเป็นสัด ลดปัญหาท้องเทียมหรือท้องไม่ได้ตั้งใจ และโอกาสการเกิดเนื้องอกเต้านม การติดเชื้อเนื้องอกในมดลูก ระยะเวลาที่เหมาะสมทั้งตัวผู้ตัวเมียอยู่ที่ 6เดือน – 1ปี

9. การฝึกสุนัข  ให้เริ่มฝึกโดยเร็วที่สุด การขับถ่าย ควรจัดให้ขับถ่ายนอกบ้าน กำหนัดเวลาที่สุนัขไปขับถ่าย เช่นตอนเช้า หลังอาหาร ก่อนนอน  โดยเราออกไปกับสุนัขด้วย ให้เค้าใช้เวลาอยู่ตรงนั้นนาน8.10นาที  และชมเชยเมื่อเขาทำด้ถูกต้อง  อย่าลงโทษด้วยการตีถ้าหากเค้าขับถ่ายในบ้าน เว้นแต่ว่าพบเขากำลังขับถ่ายในบ้านอยู้ให้รีบนำออกนอกบ้านทันที การฝึกให้เชื่อฟังคำสั่ง เช่นมานี่ นั่ง คอย ควรเริ่มเมื่ออายุ 8-10 สัปดาห์ที่ใช้ช่วงเวลาฝึกครั้งละสั้นๆ เพราะลูกสุนัข เบื่อง่าย และให้รางวัล เช่นอาหารเมื่อเขาทำถูกต้อง

10. บ้านและที่นอนสำหรับสุนัข  หากต้องการให้สุนัขนอนตรงไหนและประพฤติตัวอย่างไร ให้เริ่มฝึกทันทีตั้งแต่สุนัขมาถึงบ้าน ลูกสุนัขมักจะร้องในคืนแรกที่ถูกแยกจากแม่และพี่น้อง ควรให้ลูสุนัขนอนบนเบาะนุ่มอาจให้ของเล่นหรือตุ๊กตา หรือเปิดวิทยุ หรือตั้งนาฬิกาที่มีเสียงติ๊กๆเอาไว้ช่วยให้เขาสบายใจขึ้น ถ้ายังไม่ดีขึ้นเราควรเข้าไปหาเค้าและตบตัวเขาเบาๆและเปิดไฟทิ้งไว้ อย่าพามานอนบนเตียงดับคุณเว้นแต่คุณต้องการเช่นนั้น เพราะหลังจากนั้นเขาต้องอยู่บนเตียงกับคุณตลอดไปหากต้องการให้เขานอนนอกบ้าน ที่นอนของเค้าต้องมีที่กันลมฝนแมลงและแสงแดดด้วย

Powered by Froala Editor