พยาธิหนอนหัวใจ

ความรุนแรงของโรคนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนของตัวพยาธิตัวแก่ซึ่งจะไปอาศัยอยู่ในห้องหัวใจและหลอดเลือดที่ไปยังปอดหากมีจำนวนมากขึ้งจะไปอุดตันตามห้องงหัวใจและหลอดเลือดนั้นๆส่งผลให้เกิดปอดอักเสบและหัวใจล้มเหลวได้
อาการสามารถพบได้หลากหลายโดยแบ่งเป็น สี่ระยะด้วยกัน คือ
ระดับที่ 1 สุนัขไม่ค่อยแสดงอาการมีอาการไอเป็นครั้งคราวแต่ผลตรวจเลือดและ x-ray พบว่าปกติ
ระดับที่ 2 สุนัขจทีอาการอ่อนเพลียขณะวิ่งเล่นหฟรือออกกำลังกาย อาจมีอาการไอเป็นครั้งคราวผลการตรวจเลือดมักพบว่าโลหิตจางเล็กน้อย และยังพบการขยายขนาดของหัวใจเล็กน้อยจากากร x-ray
ระดับที่ 3 ขั้นรุนแรง สุนัขมีอารการอ่อนแรงในแม้ในภาวะปกติ มีอาการไอตลอด หายใจลำบากมักพบภาวะโลหิตจางมากขึ้นผลการ x-ray พบว่ามีการขยายขนาดของหลอดเลือดที่ไปยังปอดและสภาพเนื้อปอดดูผิดปกติไป
ระดับที่ 4 ขั้นรุนแรงมาก สุนัขมีอัตราการเต้นและเสียงของหัวใจผิดปกติไป มีภาวะเม็ดเลือดแดงถูกทำลายภาวะตับและไตล้มเหลว หากพบภาวะขั้นนี้แล้วโอกาสที่จะหายกลับมาเป็นปกติค่อนข้างน้อย
การรักษา
การรักษาขึ้นกับระยะที่เป็น โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะต้องเตรียมตัวสุนัขก่อนที่จะรับการรักษาโดยการกินยาก่อนประมาณ1-2 สัปดาห์ ก่อนการรักษาทั้งนี้ขึ้นกับระยะที่เป็น และสุขภาพสุนัขด้วย หลังจากนั้นอาจเป็นยาฉีดเพื่อฆ่าตัวแก่ของพยาธิหนอนหัวใจอาจฉีด2-3 ครั้งขึ้นกับการวินิจฉัยของสัตวแพทย์ว่าป่วยในระดับไหน นอกจากนั้นแล้วหากพบว่าป่วยในระดับที่ 4 อาจจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อคีบเอาตัวแก่ของพยาธิหนอนหัวใจออกบ้างเนื่องจากหากฉีดยาฆ่าตัวก่ไปการตายของตัวแก่อย่างรวดเร็วอาจทำให้เกิดการอุดตันในหลอดเลือดและสุนัขอาจเสียชีวิตได้ แต่หากสุนัขบางตัวมีภาวะ ตับหรือไตวายอาจต้องช่วยประคองอาการของตับและไตก่อนที่จะรับการรักษาโรคนี้โดยตรง
การป้องกัน
โรคนี้สามารถทำได้ง่ายเพียงแค่การหยอดยา เซลาเมกติน ป้องกันเป็นประจำทุกเดือนตั้งเด็กไปจนตลอดชีวิตอย่างต่อเนื่องละควรใช้ยาที่ได้รับการรับรองว่าสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยในสัตว์อีกด้วย แต่หากสุนัขโตอายุมากกว่า 6 เดือนและไม่เคยมีการป้องกันมาก่อน อาจต้องเจาะเลือดตรวจว่าป่วยเป็นโรคนี้อยู่หรือไม่หากตรวจไม่พบก็สามารถเริ่มการป้องกันได้ทันที